วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

8 เรื่องเล็กๆ ที่ควรทำบ่อยๆ(28 กันยายน 2558)

8 เรื่องเล็กๆ ที่ควรทำบ่อยๆ 

ตำราแพทย์จีนสอนมาว่า ๘พฤติกรรมในชีวิตประจำวันต่อไปนี้ ทำเถอะนะ สุขภาพดีแน่นอนค่ะ

๑.เคลื่อนไหวดวงตา การเพ่งสายตาไปที่จุดใดจุดหนึ่งนานๆเป็นการทำลายสายตาโดยตรง อย่างน้อยๆ ทุกหนึ่งชั่วโมงทุกคนควรบริหารสายตาด้วยการเหลือก ตาขึ้นบนเพดาน ค่อยๆกลิ้ง ดวงตาไปทางซ้าย วนลง ล่างแล้วกลอกไปทางขวาก่อนจะวนมาจบที่เพดานอีกครั้ง ทำหลายๆครั้งกล้ามเนื้อ ตาจะได้แข็งแรง

๒.กลืนน้ำลาย การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วย ออกกำลังกายกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย กระตุ้นระบบ ย่อยอาหารให้ทำงานเป็น ปกติ🍐

๓.หวีผมถึงแม้ว่าการหวีผม บ่อยๆ จะไม่ช่วยให้ผมสวย ขึ้น แต่จะช่วยนวดเส้นประ สาทบนสมอง ทำให้ตาสว่าง รากผมแข็งแรงขึ้นเพราะมี เลือดไปเลี้ยงทุกครั้งที่เรา หวี

๔.นวดหู ที่หูของเรามีเส้นประสาทที่ เชื่อมต่อกับไตอยู่ การดึง ดีด บีบ ถูใบหูบ่อยๆ จึงกระตุ้นการทำงานของไตโดยตรงช่วยป้องกันอาการ เวียนหัว ได้ยินเสียงแปลก ปลอม

๕.ขยับลิ้นเวลานั่งว่าง ถ้าได้ดุนเพดานปากไปด้วย จะช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำ ลาย ทำให้ปากสะอาด และขจัดกลิ่นปากไปในตัว

๖.ขมิบก้น วิธีแก้ท้องผูกที่ง่ายที่สุดก็คือการขมิบก้น ขมิบให้ได้วันละ ๓ เซ็ต เซ็ตละ ๕๐- ๑๐๐ ครั้ง ทุกครั้งที่เราขมิบก้น ลำไส้จะบีบตัว กำจัดของเสีย ที่ตกค้างไม่ให้อาละวาด ทำร้ายร่างกายของเรา

๗.ขบฟัน การขบฟันเบาๆบ่อยๆจะช่วยให้ฟันแข็งแรงและกระตุ้นการผลิตน้ำย่อย คนที่มีปัญหา เรื่องลำไส้ห้ามพลาด

๘.ถูแก้มและใบหน้า 
แกัมและใบหน้า เป็นส่วนที่ ขาดการออกกำลังกายมากที่สุดทั้งๆที่วิธีนั้นง่ายแสน ง่าย แค่ถูสบู่ไว้ที่มือทั้ง สองข้าง จากนั้นใช้ฝ่ามือ ถูหน้าเบาๆกระตุ้นการไหล เวียนโลหิต ทำให้เลือดมา เลี้ยงสองแก้มได้มากขึ้น และหน้าใสๆก็จะตามมาเอง...😇
ดีมากเลย ทำนะ ให้คนใกล้ชิดทำด้วย

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

จุดสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆบนเท้า(25 กันยายน 2558)

การนวดเท้าเพื่อสุขภาพและรักษาโรค

- ประโยชน์ของการนวด
การนวดเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ร่างกาย หรือของจิตใจ การนวดทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายหายตึง ช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เพิ่มระดับฮีโมโกลบิล การไหลเวียนของน้ำเหลืองสะดวกขึ้น และช่วยยึดข้อต่อกระดูก การนวดเป็นการรักษา เป็นกายบำบัด ออกกำลังบริหารอวัยวะต่างๆในร่างกาย ให้ทำงานได้เป็นไปตามปกติ เป็นการกระตุ้นปลายประสาท(เท้าข้างเดียวประกอบด้วยปลายประสาทประมาณ 7,000 เส้น) การนวดจุดต่างไจะช่วยกระตุ้นให้พลังงานไหลเวียนในส่วนต่างของร่างกายในแนวตั้ง และช่วยทำให้อวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำงานได้ดีขึ้น เป็นการสร้างสมดุลย์ให้กับร่างกาย เมื่อสุขภาพกายดี สุขภาพจิตก็จะดีขึ้น ช่วยขจัดรอยเหี่ยวย่นตามใบหน้าและส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วบกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในร่าฃกาย ทำงานได้ดีชึ้น
หัวใจ จะปรากฎที่ตำแหน่งเท้าซ้ายเพียงที่เดียวเท่านั้น ส่วนใหญ่อวัยวะส่วนอื่นๆ จะปรากฎจุดบนสองฝ่าเท้า
- ประวัติความเป็นมาของการนวด
- การนวดเกิดขึ้นในประเทศจีนในยุคจักรพรรดิหวงตี้ ประมาณ 5,000 ปี จากปัจจุบัน สำหรับการนวดในประเทศไทยรู้จักกันแพร่หลายในสมัยอยุธยา
- ชาวจีนมีความเชื่อว่าในร่างกายของคนเรา มีเส้นลมปราณกระจายอยู่ทั่วๆไป ทำหน้าทีเป็นทางเดินของ เลือด ลม ส่งอาหารและพลังงานไปหล่อเลี้ยงเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ถ้าการไหลเวียนของเลือดลมเกิดอาการติดขัด ก็จะทำใก้เกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นได้
- ข้อห้ามสำหรับการนวดกดจุด
1) ห้ามหนวดในหญิงมีครรภ์
2) ห้ามนวดขณะมีประจำเดือน
3) ห้ามนวดภายใน 1 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหารอิ่ม
4) ห้ามรับประทานส้ม และหน่อไม้ทุกชนิด ก่อนและหลังนวด



                                      




 




                                        



   





                                                          .........................จบ......................

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

ใช้อาหารให้เป็นยา(26 กันยายน 2558)

((ดอกบัว))อาหารเป็นยา((ดอกบัว)) 

โปรดบอกไปได้บุญครับ
((ดาว))1.ไขมันในเลือดสูง
แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
--------------------------
((ดาว))2.ปวดหัว
ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้
-------------------------
((ดาว))3.เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ
((ดาว))4.ภูมิแพ้
แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี)
--------------------------
( (hexagram))5.แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น 
หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
------------------------------
((hexagram))6.โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง
กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุดไว้ใต้หมอน
--------------------------
((hexagram))7.ไขข้ออักเสบ
หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง
-------------------------
((hexagram))8.กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยกินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ
------------------------
((hexagram))9.ท้องอืด 
แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ
---------------------
((hexagram))10.ท้องผุก
ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น.
-------------------------
((hexagram))11.โรคกระเพาะอาหาร
หากล้วยหักมุกปิ้งกิน. กล้วยน้ำหว้าหรือกระหล่ำปีเยอะให้มาก
-------------------------
((hexagram))12.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย
ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง
--------------------------
((hexagram))13.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวนให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ
-------------------------
((hexagram))14.หงุดหงิดง่ายให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียวด ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและทูน่า
---------------------------
((hexagram))15.กระดูกพรุน
ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก)
------------------------
((hexagram))16.ความจำไม่ดี
ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
------------------------
((hexagram))17.มะเร็งเต้านม
ให้กินบร็อกโคลีหรือคะน้าวันละ 5 ขีด
------------------------
((hexagram))18.มะเร็งปอดทางเดินหายใจให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี
-------------------------
((hexagram))19.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั่งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว
--------------------------
((hexagram))20.เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบกินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออกถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย
---------------------------
((hexagram))21.ความดันสูงต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินหรือผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น
-------------------------
((hexagram))22.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลีผักโขมให้มากถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

     *********************
    โรงพยาบาลธรรมชาติ
     บอกต่อยิ่งได้บุญมาก

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

สิ่งควรรู้ ก่อนขึ้นเตียง(26 กันยายน 2558)

สิ่งควรรู้  ก่อนขึ้นเตียง
(men)(women)...มีคนจำนวนมาก กลางวันไม่เป็นอะไร แต่พอกลางคืน กลับเสียชีวิต  เนื่องจากกลางคืนลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำเร็วเกินไป 
(heart)การลุกจากที่นอนอย่างกระทันหันทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ความดันโลหิตลดต่ำ จนวิงเวียนล้มลงไป บางคนถึงกับกระดูกกะโหลกศีรษะแตก 

ส่วนบางคน...
(heart)หัวใจมีปัญหา กลางวันเต้นเป็นปกติ แต่กลางคืนกลับขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจหดตัวเนื่องจากลุกจากที่นอนอย่าง กระทันหัน ความดันโลหิตลดต่ำลงขาดเลือด ไปเลี้ยงสมอง (heart)หัวใจก็หยุดเต้นได้ ถึงแม้จะไม่เสียชีวิตก็กลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ไปก็มี

(CPU Chip)นักวิทยาศาสตร์ มักจะย้ำประโยคหนึ่งอยู่เสมอๆ ว่า
“ครึ่งนาที 3 อย่าง และครึ่งชั่วโมง 3 อย่าง“

(flower)วลีนี้เป็นวลีสำคัญ ที่ไม่ต้องเสียเงินหามา แต่ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ เป็นจำนวนมาก

(12 and half)ครึ่งนาที 3 อย่าง หมายถึง 
(12 and half)1.เมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้ว อย่าลุกจากที่นอนในทันที ให้นอนไว้ก่อนครึ่งนาที 
(12 and half)2.เมื่อนั่งขึ้นมาก็ให้นั่งอีกครึ่งนาที 
(12 and half)3.แล้วเอาขาทอดไว้ที่พื้นอีกครึ่งนาที

(12 and half)ส่วนครึ่งชั่วโมง 3 อย่าง หมายถึง 
(sparkling 1)1. ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ควรออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง (หนักเบา แล้วแต่ละบุคคล) 
(hexagram)2. ตอนเที่ยง ควรนอนกลางวัน ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ตอนบ่ายจะมีพละกำลังเต็มที่ (เพราะผู้สูงอายุมักจะตื่นนอนแต่เช้า กลางวันจึง ควรพักผ่อนให้มาก)
(sparkling 2)3. ตอนเย็น ผู้สูงอายุควรเดินช้าๆ สักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ตอนกลางคืนหลับสบาย สามารถลดอัตราการเป็นโรคที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตีบและความดันโลหิตสูงได้

(loud volume)ขอให้ส่งต่อญาติสนิทมิตรสหาย
เพราะว่าความรู้นี้ สอนคนได้ ช่วยคนก็ได้  4วิธีง่ายๆในการปฐมพยาบาลดังข้างล่างนี้
(red check mark)1.สำลักอาหาร
วิธีจัดการ----แค่ยกมือขึ้นไป
(red check mark)2 ตกหมอน
คุณเคยตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตัวเองตกหมอนนั้นก็คือปวดคอ ถ้าหากตกหมอน คุณควรทำอย่างไร
ถ้าหากตกหมอน แค่ยกขาขึ้นมา
จับนิ้วโป้งของเท้าค่อยๆนวดและหมุนตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา
(red check mark)3. ขาเป็นตะคริว
เวลาขาซ้ายเป็นตะคริว  ให้ยกมือขวาขึ้นสูงๆ เวลาขาขวาเป็นตะคริว ให้ยกมือซ้ายขึ้นสูงๆ จะรู้สึกสบายผ่อนคลายทันที
(red check mark)4.  ขาชา
ถ้าขาซ้ายชาสบัดมือขวาจากช้าไปหาเร็ว ถ้าขาขวาชาก็สบัดมือซ้ายจากช้าไปเร็ว

ช่วยส่งต่อเถอะ ได้บุญกุศลมากมาย
(heart)รักนะ...... จึงห่วงใย....❤

รักษาไมเกรนด้วยสมุนไพร(26 กันยายน 2558)

รักษาไมเกรนด้วยสมุนไพร

มีพืชสมุนไพรหลายชนิดที่รักษา " ไมเกรน " ได้ดีดังที่จะนำเอามาแนะนำต่อไปด้งนี้ คือ กระเทียม ใบบัวบก ดอกแค พริกไทยดำ

กระเทียม

เอา "หัวกระเทียม" มาใช้เป็นยาแก้ อาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือ " ไมเกรน" ได้อย่างชะงัดนัก "หัวกระเทียม" ที่ใช้ในการปรุงอาหารต่าง ๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี้แหละ เอามาแก้ "ไมเกรน" ได้เลย

วิธีการก็ได้แก่ เอา หัวกระเทียม มาแกะออกเป็นกลีบ ๆ เอามารับประทานกันน้ำพริกก็ได้ เอามาผัดกับผักก็ได้ รับประทานสด ๆ ก็ดี โดยรับประทานครั้งละ 10 กลีบทุก ๆ วัน หรือจะเอา "กระเทียมแคปซูล" ก็ได้ เป็นกระเทียมที่บดละเอียดแล้ว เอามาบรรจุในแคปซูลกลืนกับน้ำสะอาดสะดวกสบาย าการปวดศรีษะข้างเดียวหรือ "ไมเกรน" ก็จะหายไปได้ในที่สุด ต้องรับประทานทุกวันต่อเนื่องกันไป

ใบบ้วบก

เอา " ใบบัวบก" มาเป็นยาสมุนไพรแก้ "ไมเกรน " ก็ได้อีกอย่างหนึ่ง

วิธีการก็คือเอามาทั้งเถา ใบและก้านใบรวมกันมาเลยเอามาล้างให้สะอาดเสียก่อน วิธีการทำเป็นยา เอาต้น เถา ใบบัวบกมาสัก 1 กิโลกรัม ตัดเป็นท่อนสั้น ๆ เอามาโขลกละเอียดหรือเอามาปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้ากับน้ำสะอาด ต่อจากนั้นเอกมาต้ม เติมน้ำลงไปพอสมควรให้ท่วมต้มไปสัก 5 นาที เมื่อเดือดแล้วก็ยกลงเอามารองบีบเอากากทิ้งไป เอามาต้มอีกครั้งหนึ่ง ใส่เกลือป่นลงไปสัก 1 ช้อนชา เย็นแล้วดื่มเป็นยาได้ทันที ดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน และเย็น จะเติมน้ำตาลทรายลงไปด้วยเล็กน้อยพอหวานนิด ๆ ก็ได้

อาการ " ไมเกรน" ก็จะหายไปได้ในที่สุดเมื่อดื่มเป็นประจำแล้วประมาณ 1 สัปดาห์

"บัวบก " เป็นพืชสมุนไพรที่ดีมาก แก้ร้อนในกระหายน้ำก็ได้แก้ความดันโลหิตสูงก็ได้

อีกทั้งยังเอามาแก้ "ไมเกรน" หรืออาการปวดศีรษะข้างเดียวก็ยังได้อีกเลย

ดอกแค

เอา "ดอกแค" ที่ปลูกกันโดยทั่วไปตามบริเวณบ้านเรือน มาเป็นยาแก้อาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือ "ไมเกรน" ได้ดีอีกอย่างหนึ่ง

เอา "ดอกแค" ทั้งดอกมาล้างน้ำให้สะอาด เอามาลวกจิ้มน้ำพริกกะปิก็ได้ เป็นอาหารไปเลย

เอา "ดอกแค " มาต้มกับซี่โครงหมู เป็น แกงจืด ก็ได้อร่อยดีด้วยแล้วก็เป็นยาสมุนไพรที่ดีแก้ "ไมเกรน" ได้อีก

เอา "ดอกแค" มาผัดกุ้งสดรับประทานเป็นอาหารเป็นกับข้าวก็ได้ มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี แถมยังเป็นยาแก้อาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือ "ไมเกรน" ก็ได้ เอา "ดอกแค " มาปรุงเป็นแกงส้ม ก็ได้ หรือ แกงเหลืองก็ได้

อาการ " ไมเกรน" จะหายไปได้ในไม่กี่วันหลังจากรับประทาน ดอกแค ไปแล้ว อาหารที่เป็นสมุนไพรด้วยนั้นนับว่าเป็นประโยชน์ดีจริง ๆ พืชสมุนไพรมากมายเอามาปรุงเป็นอาหาร เป็นกับข้าว เป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์มากหลายยิ่งนัก เมื่อรู้จักเอามาใช้ประโยชน์ก็เป็นประโยชน์อย่างที่สุด คุ้มค่าและมากด้วยของดี ๆ ไม่ใช่น้อยเลย

พริกไทยดำ

ใช้พริกไทยดำ 7 เม็ด เคี้ยวพริกไทยในปากข้างที่ปวดศรีษะทีละ 1 เม็ดก็ได้ พริกไทยจะละลายข้างกระพุ้งแก้วทำอย่างนี้จนหมด 7เม็ด พยายามไม่ดื่มน้ำตาม ( ให้กลืนไปเลย ) ให้รับประทานตอนก่อนแปรงฟันตอนเช้า ประมาณ 3 - 4 สัปดาห์